สำหรับหลาย ๆ คนทำงานเก็บเงินเพื่อต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบ เพราะนอกจากความสวยงามของตัวกระเป๋าแล้ว บางคนนำมาลงทุนเพื่อเกร็งกำไรต่ออีกด้วย
ซึ่งกระเป๋าแบรนด์เนมหลาย ๆ แบรนด์มีราคาซื้อขายในตลาดพุ่งสูงต่อเนื่อง นอกจากเป็นแรร์ไอเทมแล้ว วัสดุที่นำมาผลิตยังแข็งแรงและคงทน ฉะนั้น มาดูกันว่าใบไหนซื้อแล้วดี คุ้มค่าแค่การลงทุน
1.Hermes Birkin Bag
แบรนด์กระเป๋าจากฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อเรื่องราคาและคุณภาพของหนังที่ทนทานมากที่สุด ความพิเศษของแบรนด์นี้คือ การจำกัดการผลิตต่อลอต ยิ่งบางรุ่นที่หนังหายากราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก โดยรุ่นที่ฮอตฮิตตลอดกาลของ Hermes คือ Birkin Bag มีรูปร่างทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จุของได้เยอะ และสายคล้องแขนที่เล็กกะทัดรัด ในเรื่องของราคาเริ่มตั้งแต่ 600,000 - 5,000,000 บาทกันเลยทีเดียว ใครที่มีครอบครองและอยากส่งต่อราคาจะพุ่งสูงกว่าราคาเดิม 3-4 แสนบาทเป็นอย่างต่ำ ยิ่งเป็นกระเป๋าที่ซื้อมานานแล้ว สามารถคูณจำนวนปีที่ซื้อไปได้อีก รับรองว่ากระเป๋ารุ่นนี้ราคาไม่ตกแน่นอน เพราะได้การยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นกระเป๋าที่มีมูลค่าสูงสุดตลอดกาล
2.Lady Dior Bag
เดิมที Lady Dior มีชื่อรุ่น Chou Chou ได้ถูกเปลี่ยนในภายหลังเพื่อเป็นเกียตริแก่เจ้าหญิงไดอาน่า เนื่องจากเจ้าหญิงทรงถือกระเป๋ารุ่นนี้อวดพระโฉมต่อสายตาชาวโลก ทำให้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในทันที ด้วยดีไซน์ ขนาด และสีสันที่หลากหลายของกระเป๋า Lady Dior เป็นกระเป๋าที่ผู้หญิงทุกคนควรมี ปัจจุบันราคาเริ่ม 120,000 - 144,000 บาท ส่วนราคาที่จะส่งต่อเพิ่มประมาณ 14% จากราคาซื้อ
3.Chanel Boy Bag
กระเป๋าที่ผู้หญิงหลายคนอยากได้มาครอบครอง สำหรับรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Chanel Boy Bag จะเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก สะพายข้างที่ให้ลุกเรียบหรู ราคาขายของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 135,000 บาท และราคาส่งต่อจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ราว 40% จากราคาซื้อ ถือเป็นอีกรุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุนมากที่สุด เพราะไม่มีทีท่าว่ามูลค่าของราคาจะลงแต่อย่างใด
4.Gucci Soho
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยดีไซน์ของกระเป๋าที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด มีเพียงโลโก้แบรนด์ที่อยู่ด้านข้างกระเป๋า แต่สามารถจุของได้เยอะพอสมควร ถือเป็นกระเป๋าที่มีขนาดกำลังพอดี แถมราคาไม่แพงมากประมาณ 39,000 บาท แต่สามารถขายได้ในราคาส่งต่อที่สูงมาก ๆ ถึง 90% ของราคาซื้อ
นอกจากนี้เราจะมาบอกเทคนิคดี ๆ ในการลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์แล้วนำไปขายต่อให้ได้ราคาดีมาฝากกันค่ะ โดยคุณ TAKAYUKI SHIMATA ตำแหน่ง Product specialist แห่งร้าน Brand Off Tokyo ได้แนะนำเทคนิค ดังนี้
1.กระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ได้รับความนิยมสูงสุด ขายต่อไม่ขาดทุน
กระเป๋าแบรนด์เนมในตำนาน ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นคลาสสิกไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังขายได้กำไร เพราะคนส่วนใหญ่ซื้อไว้ลงทุนและความคลาสสิกทำให้เป็นที่ต้องการของผู้คนอยู่เสมอ อีกอย่างรุ่นเทรนด์นิยมไม่นานคนก็เลิกสนใจ เพราะเทรนด์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น รุ่นคลาสสิคจึงครองใจได้มากที่สุด
2.เก็บไว้นาน ราคาจะสูงจริงหรือไม่
ไม่มีกระเป๋าใบไหนเก็บไว้แล้วราคาจะสูงขึ้น ความนิยมส่วนใหญ่จะอยู่แค่ในช่วงแรกและบวกกับไม่สามารถบอกได้ว่าราคาจะสูงขึ้นทุก ๆ ปีรึเปล่า เพราะทุกอย่างอยู่ที่ความนิยมทั้งสิ้น ถ้าปล่อยออกมาในตอนที่เป็นกำลังที่นิยม ความต้องการกำลังสูงจะขายได้ในราคาที่สูงขึ้น พร้อมกระเป๋ามือสองราคาก็จะสูงขึ้นตามด้วย
3.กระเป๋าเทรนดี้ ลงทุนอย่างไรให้ได้กำไร
อย่างที่บอกไปข้อแรกคือ กระเป๋าคลาสสิคจะขายได้กำไรดีกว่า แต่ถ้าเป็นสาย Trendy อยากได้กระเป๋าแฟชั่นจ๋า แนะนำให้ซื้อรุ่นที่นิยมเท่านั้นจะสามารถขายได้กำไรดี และต้องอยู่ในช่วงที่ผู้คนมีความต้องการสูงสำหรับรุ่นนั้น ๆ
หากใครชื่นชอบแฟชั่นและของที่มีมูลค่า อย่างกระเป๋าแบรนด์เนมที่นอกจากจะใช้ในชีวิตประจำวันได้แล้วสามารถนำมาต่อยอดเป็นกำไรได้ในอนาคต สุดท้ายไม่ว่าจะซื้อแบรนด์ไหน รุ่นอะไร ถ้าไม่คิดจะใช้กระเป๋าใบนั้นแล้ว การขายต่อก็ดีกว่าวางทิ้งไว้เฉย ๆ เพราะทำให้เสียมูลค่าที่ซื้อมาไปเปล่า ๆ สุดท้ายหวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนที่ชื่นชอบและกำลังตัดสินใจซื้อ ขอให้ได้แบรนด์ที่ใช่ รุ่นที่โดนกันนะคะ
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 937