เคยสงสัยกันไหมว่านอกเหนือจากเรื่องราวและตัวละคร ทำไมภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์มักมีบทเพลงป็นองค์ประกอบสำคัญที่แทบจะขาดไม่ได้ ในเรื่อง ‘Beauty and the Beast’ เองก็มีเพลงประกอบที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ยังคงความคลาสสิกได้ตลอดกาล ไม่ใช่แค่ความไพเราะอย่างเดียวแต่เพลงประกอบเหล่านั้นล้วนมีความหมายแฝงอยู่ บทเพลงไหนบอกอะไรกับเราบ้างมาดูกัน
ถือเป็นเพลงเปิดเรื่องและเปิดตัวเบล (Belle) เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของเธอต่อเมืองเล็กในชนบทที่เบลอาศัยอยู่ สำหรับเธอเมืองเล็กแห่งนี้ช่างว่างเปล่าและจำเจ เบลจึงแวะเวียนไปร้านหนังสือเพื่อค้นพบโลกใบใหม่ เพลงนี้สอดแทรกบริบทของสังคมจากเสียงของชาวเมืองที่สลับไปมา ทั้งเสียงทักทายและเสียงนินทา ชาวเมืองต่างขนาดนามกันว่าเบลเป็น “คนแปลก” เพียงเพราะเธอชอบหมกตัวอ่านหนังสือแถมยังไม่สนใจหาคู่ครองอย่างผู้หญิงคนอื่น ๆ ในเมืองนั่นเอง
ปราสาทหลังใหญ่แต่บรรยากาศกลับเงียบอึมครึมและน่ากลัวราวกับปราสาทร้าง เหล่าเชิงเทียน นาฬิกา กาน้ำชา และอุปกรณ์ต่าง ๆ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและต่างกระตือรือร้นต้อนรับเบลในมื้ออาหารค่ำด้วยบทเพลงสุดพิเศษ “Be Our Guest” แสดงให้ผู้ชมเห็นถึงอดีตเมื่อหลายปีก่อนของปราสาทเจ้าชายอสูรที่มักมีงานเลี้ยงหรูหรา มีอาหารเลิศรส และมีบริวารมากมายคอยปรนิบัติรับใช้
บทเพลง Something There ช่วยให้ผู้ชมเห็นถึงพัฒนาการของตัวละครเบลและเจ้าชายอสูรผ่านบทเพลงที่ทั้งคู่ต่างแสดงความคิดและความรู้สึกที่เปลี่ยนไปต่ออีกฝ่าย เบลมองว่าแท้จริงแล้วเจ้าชายอสูรเป็นคนที่มีจิตใจดีแต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและการแสดงออกของเขาบดบังมันเอาไว้ ขณะเดียวกันเจ้าชายอสูรที่ไม่มั่นใจในตนเองก็เริ่มแสดงความอ่อนโยนต่อคนรอบข้างและมีความรู้สึกที่ดีต่อเบลมากขึ้น
ส่วนใครที่อยากไปซึมซับความสวยงามของเพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชัน ไม่ควรพลาดการแสดงดนตรีสดในรูปแบบ Live to Film ในคอนเสิร์ต Beauty and the Beast in concert จัดโดย FIVE FOUR LIVE ร่วมกับ THAILAND PHILHARMONIC ORCHESTRA
อย่ารอช้ารีบซื้อบัตรกันเลย 👇🏻
🗓 วันเสาร์ที่ 20 - วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2566
🕐 16.00-18.00 น.
📍 หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา