22 Jan 2019 08:00

Made in Japan มีดีอย่างไร ทำไมคนไทยถึงชอบ

เหตุผลว่าทำไมคนไทยหลายคนถึงมีความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าญี่ปุ่นที่มีตรงว่า " Made in Japan" โดยปกติแล้วพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นหลายๆคน มักจะซื้อสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ โดยให้สังเกตดูที่ป้ายที่เขียนคำว่า 日本製 & 国産 ซึ่งทั้งสองคำก็หมายถึงสินค้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น หนึ่งเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะความเป็นชาตินิยมของคนญี่ปุ่นเอง แต่อีกหนึ่งเหตุผลที่คนทั้งโลกไม่ปฏิเสธนั่นก็คือนิสัยเฉพาะตัวของคนญี่ปุ่นนั่นเอง คือ คนญี่ปุ่นจะมีนิสัยละเอียดอ่อน ประณีต รอบคอบ ด้วยนิสัยแบบนี้สินค้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นจึงแตกต่างจากที่อื่น

และที่ญี่ปุ่นจะมีคอนเซ็ปต์ที่ใช้กันเป็นประจำก็คือคำว่า 安心 = สบายใจ　安全 = ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าสินค้าที่ใช้นั้น ใช้แล้วสบายใจ ใช้แล้วปลอดภัย ดังนั้นคอนเซ็ปต์นี้ก็เป็นเหตุผลที่บอกได้ว่าสินค้า Made in Japan ดีกว่าอย่างไร

1.เนื้อวัวมัตสึซากะ เนื้อวัวคุณภาพอันดับต้นๆ ของโลก

ทรัพยากรอาหารหรือวัตถุดิบ เนื้อวัวญี่ปุ่นเป็นตัวชี้วัดความเหนือกว่าของสินค้าญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะแสดงถึงความเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนการเลี้ยงแล้ว โดยเนื้อมัตสึซากะ จะถูกเลี้ยงในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ต้องให้วัวออกกำลังกายมาก สำหรับอาหารวัวก็จะคัดสรรประเภทที่มีเส้นใยสูง เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด หญ้าแห้ง กากถั่วเหลือง เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้กระเพาะขยายได้มากๆ ส่งผลให้วัวมีความอ้วนท้วม สมบูรณ์ และที่สำคัญคือ ต้องให้วัวดื่มเบียร์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพราะคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าการที่วัวดื่มเบียร์นั้นก็เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร และถึงขนาดที่ต้องนวดวัวด้วยแปรงที่ทำมาจากฟางเพื่อความผ่อนคลายอีกด้วย

โดยปกติแล้ววัวจะถูกนำไปเชือดเมื่อมีอายุ 2 ปี แต่สำหรับวัวมัตสึซากะจะถูกเชือดก็เมื่ออายุได้ 3 ปี ก่อน

สำหรับคุณค่าทางโภชนาการ เนื้อมัตสึซากะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโอเมก้า-ทรี (Omega-3) และโอเมก้า-ซิก (Omega-6) และแม้จะดูเหมือนมีชั้นไขมันในเนื้อค่อนข้างมาก ก็เป็นไขมันดี บริโภคได้ และชั้นไขมันนี่ก็คือไฮไลท์ของเนื้อวากิว เพราะจะทำให้เนื้อนุ่ม รสสัมผัสดี บางคนถึงกับบอกว่าละลายในปากได้เลยทีเดียว

ไม่เพียงเท่านี้ ความสำคัญของเนื้อวัวมัตสึซากะ มันยังชี้ให้เห็นถึงคุณภาพที่สูงกว่า ตามราคาที่พุ่งขึ้นอย่างสมเหตุสมผล จนถึงขนาดที่ว่า เนื้อวัวญี่ปุ่นนั้นแพงกว่าเนื้อวัวนำเข้าเสียอีก

2.ซูชิ ซาซิมิ

คงเป็นที่รู้จักกันดีว่า อาหารญี่ปุ่นยอดฮิตของคนไทยคงหนีไม่พ้น ซูชิหรือซาชิมิ จนทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพฯผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว และก็มักจะมีนักชิมที่สรรหาความอร่อยจากการชิมอาหารจากร้านญี่ปุ่นทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งบางร้านราคาซาชิมิ อาจจะสูงถึง 1,000-2,000 บาท เนื่องจากทางร้านมีการการันตีถึงการนำเข้าเนื้อปลาแต่ละชนิดที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าราคาและจำนวนวันของวัตถุดิบที่มาถึงก็ส่งผลกับความสดของวัตถุดิบเช่นกัน หรือแม่แต่เมนู ชูชิหน้ากุ้ง ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะด้อยคุณภาพแต่อย่างใด เพราะถึงแม้จะเป็นของนำเข้า แต่เมื่อผ่านกระบวนตรวจสอบทุกกระเบียดนิ้วของคนญี่ปุ่นแล้ว รับรองได้เลยว่าต้องเป็นของดีมีคุณภาพแน่นอน

ทั้งนี้ Made in Japan ก็ไม่ได้แพงเสมอไป เพราะถ้าหากเปรียบเทียบเมนูเดียวกัน และคุณภาพเดียวกันอาหารในประเทศญี่ปุ่นกลับมาราคาที่ถูกกว่าค่อนข้างมาก ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะและติดกับทะเลจึงเป็นแหล่งพบวัตถุดิบใต้ท้องทะเลได้ง่าย

3.รองเท้า CONVERSE Made in Japan

เคยมีคนบอกว่า “ผลิตที่ไหนไม่สำคัญผลิตที่ JAPAN เจ๋งสุด” แต่เดิม CONVERSE มีโรงงานการผลิตที่ MADE IN USA ที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีความทนทานกว่าผลิตจากที่อื่นๆ แต่ปัจจุบันก็ได้ปิดตัวไปเสียแล้ว ทำให้กลายเป็นของหายากที่นักสะสมยังคงตามหากัน ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้มี CONVERSE ที่ผลิตขึ้นใหม่หลายประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จีน, อินโด, เวียดนาม เพื่อลดต้นทุนลง ซึ่งคุณภาพจะพอๆกัน แต่จะมีที่เดียวที่คนเล่นรองเท้าผ้าใบจะรู้กัน ว่านี่คือที่สุด หายาก และได้รับความนิยมจากทั่วโลกว่าเป็น THE BEST ของจริง นั่นก็คือ ไลน์การผลิตจากโรงงานญี่ปุ่น (MADE IN JAPAN) ด้วยข้อจำกัดที่ผลิตน้อย ใช้วัสดุที่อย่างดี

ซีรี่ส์ที่เป็น MADE IN JAPAN มักจะมีราคาสูงกว่าที่ผลิตในประเทศอื่น แต่ราคาจะต่างมากหรือน้อย ก็ขึ้นกับค่าเงินเยนในช่วงนั้นๆเช่นกัน นั่นก็เพราะคนญี่ปุ่นพยายามที่จะใช้ทรัพยากรของประเทศตัวเองอย่างรู้คุณค่าและคุ้มค่าเป็นพิเศษ อย่างที่ทราบกันดีว่าคนญี่ปุ่นนั้นมีความละเอียดอ่อน ใส่ใจ และรับผิดชอบงานของตนมากแค่ไหน ทำให้คุณภาพแรงงานของประชากรนั้นสูงขึ้นตามลำดับ ดังนั้น ทุกอย่างที่ใช้แรงงานการผลิตจากชาวญี่ปุ่นเอง จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสินค้ามีมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าสูง ราคาจึงสูงขึ้นอีกนั่นเอง

4.เสื้อผ้า

แบรนด์ยูนิโคล่ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าลำลองแบรนด์หนึ่งที่คนไทยหลายคนนิยมซื้อหามาสวมใส่ ยิ่งใครที่ชอบในการสวมใส่เสื้อผ้าสีพื้นด้วยแล้ว คงจะถูกใจในราคาและคุณภาพไม่น้อย ซึ่งหากจะเปรียบเทียบราคาในประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทยต้องบอกได้เลยว่า ขึ้นกับค่าเงินเยนในช่วงเวลานั้นด้วย เนื่องจากหากค่าเงินเยนอ่อนตัว ราคาเสื้อผ้ายูนิโคล่ในประเทศไทยก็แทบไม่แตกต่างกับประเทศญี่ปุ่น หรือหากมีความแตกต่างก็จะอยู่ 100-200 บาทเท่านั้น

สำหรับแบรนด์ยูนิโคล่เริ่มเปิดสาขาแรกที่ฮิโรชิมะเมื่อปี 1984 หลังจากนั้นก็ได้ขยายสาขาตามริมถนนในเขตนอกเมืองเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ยูนิโคล่ออกแคมเปญเสื้อฟลีสเมื่อปี 1998 ก็เกิดปรากฏการณ์ยูนิโคล่บูมไปทั่วประเทศ ทำให้ชื่อยูนิโคล่เป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่นในทันที ยูนิโคล่เปิดสาขา Global Flagship ที่โอซาก้าและกินซ่ารวม 3 สาขา และยังเปิดสาขา Global Prosperity ในเมืองใหญ่อีก 4 สาขา ในขณะนี้ยูนิโคล่เปิดสาขากว่า 830 แห่งทั่วญี่ปุ่นแล้ว และยังเติบโตเป็นธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้าลำลองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วจึงทำให้มีการขยายตลาดมาสู่ประเทศไทย โดยร่วมทุนกับบริษัท Mitsubishi Shoji และได้เปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายนปี 2011 หลังจากนั้นก็เดินหน้าขยายเครือข่ายสาขาอย่างรวดเร็ว จนในปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 30 แห่งเลยทีเดียว

ซึ่งเสื้อผ้าในร้านยูนิโคล่สาขาในประเทศไทยส่วนมากก็มักจะเห็นป้ายที่เขียนว่า Made in Vietnam หรือ Made in China บ้าง ซึงแม้แต่ในร้านยูนิโคล่ที่ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็ยังเห็นป้ายที่เขียนว่า Made in Vietnam บ้างซึ่งแน่นอนว่าค่าแรงงานในประเทศญี่ปุ่นนั้นสูงกว่าที่อื่นๆ แต่ถ้าหากคุณไปเจอกับเสื้อยูนิโคล่ ที่เขียนว่า Made in Japan แล้วนั้นก็จงมั่นใจได้เลยว่า คุณได้รับเสื้อผ้าคุณภาพกับราคาที่ยุติธรรมแน่นอน

5.อุปกรณ์กีฬา

แบรนด์ Yonex แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่เหล่านักกีฬาแบดมินตันต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะไม้แบดคุณภาพเยี่ยมมากมายที่มืออาชีพเลือกใช้ก็มักจะมาจากแบรนด์นี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า หรือสินค้าอื่นๆ แต่ถ้าหากมีป้ายที่ติดว่า Made in Japan ด้วยก็มั่นใจได้เลยว่ามีการคัดเลือกวัสดุอย่างดี (เพราะในบางครั้งเราอาจจะพบแบรนด์นี้แต่ผลิตที่ประเทศไต้หวัน หรือเวียดนามก็มี) ความปราณีตในการตัดเย็บหรือการผลิตที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นจึงมักการันตรคุณภาพ กับราคาที่เหมาะสมได้

อีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพของประเทศญี่ปุ่นก็คือ "MIZUNO" ผู้ผลิตสินค้าและอุปกรณ์กีฬาสัญชาติญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ที่ผลิตมาเพื่อนักกีฬาเป็นหลักและได้รับความชื่นชอบจากนักกีฬาระดับโลกมากมาย จนกระแสความนิยมได่ไหลมาสู่เหล่านักกีฬาสมัครเล่นในประเทศไทยไม่น้อย