05 Jun 2018 11:30

สรุปความเจ๋งของ iOS12 จากมุมมองคนที่ใช้ Apple Devices

Apple เปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ iOS 12 เมื่อช่วงเที่ยงคืน (ของวันที่ 5 มิ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย ที่งาน WWDC 2018 หรือ The Apple Worldwide Developers Conference โดยจะเน้นเรื่องของประสิทธิภาพให้ทำงานได้เร็วขึ้น รวมถึงความสนุก ลูกเล่นใหม่ๆ มากมาย มาดูกันดีกว่ามีอะไรบ้าง

iOS 12 ทำงานได้เร็วกว่า แม้อยู่บนอุปกรณ์รุ่นเก่า

รวดเร็ว และ ตอบสนองไวขึ้น เช่น เปิดแอปฯ ได้เร็วกว่าเดิมสองเท่า หรือจะเป็น เปิดกล้องเร็วกว่าเดิมถึง 70% และหากคุณใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง iPhone 5s ก็สามารถใช้งาน iOS 12 ได้อย่างราบรื่น

Animoji ใหม่ 4 ตัว มาพร้อมการสร้าง Memoji

ถูกใจสายอิโม...จิ แน่นอน เพราะใน iOS 12 เขาเพิ่มตัวละครมาใหม่ 4 ตัว Ghost, Koala, T-Rex และ Tiger ไม่เพียงเท่านั้น Animoji เวอร์ชั่นนี้ยังมีการพัฒนาให้สามารถตรวจจับใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น และ ยังสามารถตรวจจับการแลบลิ้นและกระพริบตาไ้ด้ คิดว่าหมดแค่นี้ใช่มั้ย ยังก่อน คุณสามารถสร้าง อิโมจิส่วนตัว (Memoji) ได้อีกด้วย

Group Facetime ใช้งานได้สูงสุด 32 คน

คุยทีละคนมันน้อยไป ฟีเจอร์นี้เลยจัดให้แบบเป็นกลุ่ม ได้สูงสุดถึง 32 คน ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับใครที่เบื่อการโชว์หน้าตัวเอง ก็เลือก Animoji หรือ Memoji เข้าไปใช้งานแทนได้นะ

การแจ้งเตือนที่ดูง่าย สบายตา

พอกันทีกับ notifications ที่ยาวเฟื้อย ไม่เป็นระเบียบ ใน iOS 12 จะมีการเรียงลำดับการแจ้งเตือน ที่ดูง่าย สบายตา เพราะจะมาตามเวลาการส่งเป็นหลัก

Siri จะไม่ใช่แค่แอปที่ทำงานผ่านเสียง

ใน iOS 12 นี้ จะไม่ใช่แค่แอปผู้ช่วยที่ทำงานผ่านเสียงอีกต่อไป เราจะได้เห็น Siri ทำงานร่วมกับอุปกรณ์หรือแอปอื่นๆได้หลากหลายขึ้นกว่าเดิม โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่ง Shortcuts โดยการสร้างคำสั่งเสียงง่าย ๆ เพื่อเริ่มต้นงาน และที่น่าสนใจก็คือ Siri สามารถแปลภาษาได้เพิ่มขึ้นอีก 40 ภาษา

Do Not Disturb อัพเกรดใหม่ ใส่ใจสุขภาพและการนอนที่มากขึ้น

ฟีเจอร์นี้ น่าจะเหมาะกับหลายๆคนเปิดโหมด DND ไว้ล้วชอบหยิบ iPhone มาดูเวลาตอนดึกแล้วก็ยังไม่ได้นอน เพราะดันเห็น notifications เลยยาวทั้งคืน ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ด้วยการตั้งค่า "Downtime" โดยการเซ็ตเวลาที่จะบล็อค notifications ต่างๆไม่ให้โผล่มาบนหน้าจอ อย่างเช่นช่วงเวลาที่เรานอน ช่วยให้คุณไม่ถูกรบกวนทางสายตา ดูเวลาเสร็จหลับต่อได้เลย

CarPlay รองรับการใช้งานแอพฯนำทางแบบ 3rd Party

นอกจากยังมีการปรับโปรแกรมการใช้งานใหม่แล้ว ยังได้เพิ่มในส่วนของฟังก์ชั่น Apple CarPlay โดยรองรับการทำงานร่วมกับแอพฯนำทางจากผู้ผลิตอื่นๆที่คุณถนัดใช้งานอย่างเช่น Waze หรือ Google Map ไม่ต้องกังวลต่อไปว่า Maps เดิมๆจะพาคุณงง

นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนของสิ่งที่จะเกิดขึ้น บนระบบปฏิบัติการ iOS 12 ที่จะว่าไปมันมีประโยชน์หลายฟีเจอร์อยู่นะ แล้วถ้าอยากอัพเดทบ้าง เพียงแค่อุปกรณ์ของคุณเป็น

- iPhone 5s เป็นต้นไป

- iPad Air และ iPad Pro ทุกรุ่น

- iPad mini 2 เป็นต้นไป

- iPad Gen 5 และ iPad Gen 6

- iPod gen 6 เป็นต้นไป

โดยสามารถดาวน์โหลด เวอร์ชัน beta สำหรับนักพัฒนาได้แล้ววันนี้ ส่วนเวอร์ชั่นสำหรับคนทั้วไป ทาง Apple จะปล่อยออกมาให้ได้อัพเดทพร้อมกันทั่วโลกก่อนสิ้นปี 2018