00 blog cover
26 Nov 2019 18:00

มีเงินเก็บซื้อ บ้าน VS คอนโด อะไรคุ้มกว่า?

แน่นอนว่าหากใครที่มีเงินเก็บแล้วอยากจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้เพื่อเป็นที่อยู่หรือเก็บไว้ลงทุนในอนาคต ก็ต้องนึกถึง "บ้าน" หรือ "คอนโด" เป็นคำถามที่น่าคิดสำหรับหลาย ๆ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง

สำหรับคนส่วนใหญ่ การเลือกที่อยู่อาศัยมีตัวแปรและปัจจัยให้คิดให้เปรียบเทียบอยู่มากมายที่เราต้องคิดอยู่ในหัว งบประมาณเท่าไหร่ มีเงินในกระเป๋าพอหรือยัง เรากู้ไหวไหม พื้นที่ใช้สอยเป็นยังไง หรือแม้กระทั่งในเรื่องของการเติบโตดอกเบี้ย การซื้อไว้ลงทุนในอนาคต และคำถามอีกมากมายเต็มไปหมด วันนี้แอดมินจะมาบอกเหตุผลดี ๆ ไว้เป็นทางเลือกให้กับคนที่กำลังลังเลอยู่



มาดูเป็นประเด็นต่าง ๆ กันเลยดีกว่า แต่ก่อนอื่นเลยเราจะต้องเลือกตามข้อพิจารณาเพื่อเสริมการตัดสินใจ
1.Location
ก่อนอื่นต้องสำรวจความต้องการของตัวคุณ ว่าคุณต้องการอาศัยอยู่ในทำเลที่พักแบบไหน เช่นอยากอยู่ใกล้ตลาด มีของกินหาซื้อได้สะดวก ใกล้โรงพยาบาล ใกล้ห้างสรรพสินค้า ติดถนนใหญ่ เดินทางง่าย มีรถสาธารณะเข้าถึง เป็นต้น
2.Privacy
เรื่องของความเป็นส่วนตัวสำคัญเช่นกัน คุณต้องการอยู่อย่างเงียบสงบในพื้นที่ของตัวเอง หรือชอบที่จะมีเพื่อนบ้านไว้ทักทาย อยู่ในบริเวณที่มีแสงสี สถานบันเทิงต่าง ๆ 
3.Management
หากคุณอยู่คอนโดแน่นอนว่าภายในห้องคุณสามารถจัดการมันอย่างไรก็ได้ตามที่คุณชอบ แต่ถ้าคุณอยู่บ้านและคิดจัดการบริเวณโดยรอบตัวบ้าน คุณต้องคิดถึงเพื่อนบ้านของคุณด้วย เช่น จะต่อเติมกันสาดอย่างไรไม่ให้ล้ำเขตเพื่อนบ้าน แม้กระทั่งวัสดุตกแต่งผิวบางประเภทที่สะท้อนแสงเข้าบ้านของคนอื่นก็ยังไม่ควรเลือกใช้
4.Attendance
ลองคิดง่าย ๆ ว่าคุณชอบไหมกับการต้องตัดหญ้าที่สนามเมื่อมันยาวเกินไป กำหนดเปลี่ยนมุ้งลวดให้ประตูหน้าต่างทุกบาน ขัดถูล้างลานบ้านหากเริ่มดำหรือมีตะไคร่ เมื่อมีพื้นที่บ้านมากขึ้นก็ต้องดูแลให้มากขึ้นด้วย
6.Facilities
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบในเรื่องของส่วนกลางมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของลูกบ้านมาก ๆ ส่วนกลางที่แต่ละโครงการทำมาให้เป็นตัวบ่งบอกถึงระดับราคาของโครงการนั้นได้เลย เพราะถ้าโครงการออกแบบสวยและให้วัสดุมาดี ดูน่าใช้งาน ลูกบ้านก็อยากอยู่
5.Budget
สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ "งบประมาณ" เมื่อดูความต้องการต่าง ๆ ของตัวเองแล้วแต่งบประมาณไม่ถึง อาจจำต้องลดสเปคลงมาให้พอกับงบประมาณที่มีอยู่ในบัญชี



บ้าน 
ในด้านของพื้นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า บ้านส่วนมากจะมาพร้อมที่ดินที่มีบริเวณให้ระดับหนึ่ง 
ที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรีโนเวทหรือจัดสรรค์ส่วนต่าง ๆ ในบ้าน การเลือกอยู่บ้านมีอิสระที่มากกว่าในเรื่องส่วนบุคคล ความเป็นส่วนตัวสูง เรื่องการเข้าอยู่เรามีสิทธิ์ในการตัดสินใจเองทั้งหมด ประโยชน์ทางภาษี เงินที่เราจ่ายเป็นค่าผ่อนบ้านให้กับสถาบันการเงิน ในแต่ละปีนั้น เราสามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ด้วย ซึ่งสามารถหักได้สูงถึง 50,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งช่วยให้ผู้ผ่อนบ้านสามารถประหยัดเงินในส่วนนี้ได้ทุกปี แต่หากเป็นการ"เช่า" จะไม่มีสิทธิ์ตัวนี้

"Payment"
ส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่ทุกคนอยากได้ข้อมูลเพิ่มการตัดสินใจ ปลายปีที่เเล้วแบงก์ชาติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งเเรกในรอบ 7 ปี ทีนี้เหล่าแบงก์พาณิชย์ก็ขานรับนโยบายปรับขึ้นตาม แม้ว่ายังเป็นเพียงการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากก็ตาม เเต่ไม่ช้าไม่นานดอกเบี้ยเงินกู้ต้องปรับขึ้นตามเเน่ ๆ 

“ดอกเบี้ยขาขึ้น” เงินงวดเพิ่มขึ้น 
อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเงินงวดอาจเรียกเก็บเท่าเดิม การที่ดอกเบี้ยขึ้นส่งผลให้คนที่กำลังผ่อนบ้านด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวมีค่างวดเพิ่มขึ้น เช่น กู้อัตราดอกเบี้ย MRL หรืออัตราดอกเบี้ย MRR โดยทุกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น 1% มีผลทำให้ค่าผ่อนบ้านเพิ่มขึ้นประมาณ 7-9% (ขึ้นอยู่กับวงเงินกู้) ส่วนคนที่กู้แบบดอกเบี้ยคงที่ไม่กระทบอะไร และอย่างที่บอกไปว่าถึงเงินงวดผ่อนบ้านจะเพิ่มขึ้น แต่ธนาคารอาจไม่ได้เรียกเก็บเงินงวดจากผู้กู้เพิ่ม เนื่องจากปกติเวลาคำนวณเงินงวด ทุกธนาคารจะคำนวณเงินงวดเผื่อไว้ในกรณีที่ดอกเบี้ยปรับขึ้นไว้เรียบร้อยเเล้ว เช่น อาจบวกไว้ที่ 1-2% แล้วเเต่ธนาคาร ดังนั้นถึงดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เงินงวดอัตราเดิมที่ยังพอจ่ายดอกเบี้ยเเละตัดเงินต้นได้ครบ จึงไม่จำเป็นต้องเรียกเก็บเงินงวดเพิ่มแต่อย่างใด



คอนโด
ทางเลือกใหม่ของคนสมัยใหม่ซื้อแล้วปล่อยเช่าได้ทันที น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกใจนักลงทุนมากที่สุด เพราะะคอนโดมิเนียมที่ยังสร้างไม่เสร็จ ช่วงที่รอการก่อสร้างต้องจ่ายเงินดาวน์ไปเรื่อยๆ รอจนกว่าโครงการสร้างเสร็จจึงจะสามารถปล่อยเช่าได้ ซึ่งนับเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือไม่มีผลตอบแทน

"Investment"
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้เปิดเผยว่า การเติบโตของอุปทานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี และราคาจะปรับเพิ่มสูงขึ้น 8-12% ต่อปี ภาพรวมตลาดคอนโดในไตรมาส 2 ปี 2561 นั้นพบว่าอุปทานคอนโดในกรุงเทพฯเติบโตขึ้น 9,395 หน่วย จาก 20 โครงการใหม่ ทำให้ในปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมรวม 573,000 หน่วย ซึ่งทำเลที่มีคอนโดเปิดใหม่มากที่สุด คือ ทำเลจรัญสนิทวงศ์ และทำเลสะพานควาย

ราคาคอนโดสูงขึ้นมาจากปัจจัยหลักคือ ราคาที่ดินสูงขึ้น และที่ดินหายากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ภาพรวมของราคาคอนโดโดยเฉลี่ยมีการปรับตัวสูงขึ้น 5% โดยในช่วงครึ่งปีแรก มีราคาอยู่ที่ 137,100 บาท/ตร.ม. แต่ในส่วนของคอนโดในทำเลใจกลางเมืองจะมีราคาคอนโดปรับตัวสูงขึ้นถึง 6% หรือมีราคาเฉลี่ย 223,000 บาท/ตร.ม. และถ้าเป็นคอนโดในทำเลรอบใจกลางเมือง จะพบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้น 4% หรือมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 110,000 บาท/ตร.ม. และตลาดคอนโดรอบนอกปรับตัวสูงขึ้น 3% หรือ 75,000 บาท/ตร.ม.




วัตถุประสงค์ในการซื้อก็เพื่อการลงทุน ทั้งในแบบระยะสั้น และระยะยาว เพื่อปล่อยเช่า เพราะคาดหวังในผลตอบแทนรายปีและจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่าราคาค่าเช่า ไม่ได้เติบโตในอัตราส่วนเดียวกับราคาขายของคอนโดมิเนียม ดังนั้น ในระยะยาวนักลงทุนน่าจะหวังผลกำไรจากราคาขายต่อที่เพิ่มสูงขึ้นได้เป็นหลัก ส่วนจากราคาค่าเช่าอาจไม่ได้สูงมากนัก และหากจะคาดว่าต่างชาติจะเข้ามาถือครองคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 49% อาจเห็นได้ในบางโครงการเท่านั้น และในที่สุดแล้ว ตลาดที่น่าจะต้องให้ความสนใจเป็นหลักก็ยังคงเป็นตลาดคนไทยนั่นเอง เผื่อใครที่สนใจลงทุนกัคอนโดหรือศึกษาข้อมูล สามารถไปได้ที่งาน AssetWise Grand Sale 21 Nov 2019 09:00 - 27 Nov 2019 20:00
Central Plaza Lardprao, ชั้น 1 ลานโปรโมชั่น Zone A (ใกล้กับร้าน CC Double O)

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร

Buy Tickets


เอาละค่ะ ไม่ใช่แค่คุณคนแรกที่ตัดสินใจว่าจะซื้อบ้านหรือคอนโดดี เพราะทั้งสองประเภทต่างก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกประเภทไหน อย่าลืมดูบริบทปัจจัยโดยรอบที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด คุณซื้อเพื่ออะไร ? แล้วคุณจะได้สิ่งที่คุ้มค่าจากการลงทุนครั้งนี้มากที่สุด

money, GoogValue, condo, home