Emily in Paris พร้อมเทคนิคการตลาดสุดปัง มัดใจลูกค้า

1. Storytelling 

เป็นอีกหนึ่งวิธี Engage ผู้ติดตาม ส่วนมากอาจจะเวิร์คกับเหล่า Influencer หรือกลุ่ม Content Blogger ทั่วไปเสียส่วนใหญ่ อย่าง Emily ที่มีการปรับเปลี่ยนชื่อ IG อย่างเมื่อมาถึง Paris โดยใช้คำว่า @emilyinparis จากผู้ติดตามหลักหน่วยก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นด้วย Content แบบ Storytelling และการแชร์อะไร Local ให้กับคนทั่วไปได้เห็น ได้ฟัง ทำให้คนรู้สึกสนุกไปกับมันมากขึ้น อย่าขายอย่างเดียว มองหา Purpose ของแบรนด์ และ Purpose ของช่องทางแต่ละอันดูนะ

2. Personality

ความน่ารักของตัวนางเอก Emily มีความสดใส น่ารักตลอดเรื่อง ซึ่งนิสัยแบบนี้แหละคือ Personality ที่ทำให้ทคนดูและผู้ติดตามเธอใน Instagram หลงรัก และอยากอยู่ต่อกับเธอเพื่อเสพคอนเทนต์ต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องของ Persona ในการทำ Character ให้กับแบรนด์จึงเป็นอะไรที่จำเป็น 

3. รับฟังความเห็นลูกค้าผ่าน Social Media ได้

อีกหนึ่งเทคนิคดี ๆ ที่ Emily ใช้คือการถามความเห็นผู้ติดตามผ่านเครื่องมือง่าย ๆ อย่าง Social Media ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ที่มีเครื่องมือให้เราครบทั้ง Polls / Questions / Quiz / Rate และอื่น ๆ เปลี่ยนเรื่องเสี่ยงให้กลายเป็นเรื่องที่สังคมได้ถกเถียงและพูดคุยกันมากขึ้น แค่นี้ก็กลายเป็นอีก 1 คอนเทนต์ที่จะทำให้เกิด Engagement เพิ่มขึ้นพร้อม Conversation ต่างๆ ได้ด้วย

4. Influencers ไม่ได้สนใจแบรนด์ของเราขนาดนั้น

หลาย ๆ ครั้งเราเลือกใช้ Influencers ที่จริง ๆ แล้วแทบไม่รู้จักแบรนด์ของเราเลย พวกเค้าไม่ได้สนใจว่าแบรนด์เราจะมาจากไหน แต่แคร์ถึงภาพลักษณ์ ชื่อเสียงตัวเอง และธุรกิจมากกว่า ในขณะที่คนที่เป็นสาวกแฟนคลับจริง ๆ ของแบรนด์ ภักดีกับแบรนด์สุด ๆ หลายองค์กรกลับมองข้ามไปซึ่งในประเด็นนี้ ทางที่ดีควรตั้งกลุ่มสำหรับคนรักแบรนด์นี้อย่างจริงจัง 

5. Connection

ฉากที่ Emily ได้เจอกับสาวฝรั่งเศสผมบลอนด์ที่ร้านขายดอกไม้ ก็ได้พาเธอให้ไปเจอกับ Connection ในการเชื่อมต่อธุรกิจต่อ ๆ ไปเพิ่ม ทำให้การ Collaboration เป็นไปได้ อย่าลืมมองหาความรู้ connection จากรอบ ๆ ตัวเราดู เพียงแค่เราเห็น Opportunity ในการ Connect กับมันหรือเปล่า ? 

อย่าลืมนำในปรับใช้กันด้วยนะคะ อย่าดูแล้วปล่อยผ่านไปเฉย ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้อยู่รอบตัวเราทุกวันและไปต่อยอดในอนาคตได้อย่างแน่นอน

อ้างอิง : การตลาดวันละตอน