21 Jan 2020 18:00

ถอดบทสัมภาษณ์ 'พี่เอ็ด 7 วิ' ที่จะมาไขคำตอบในการทำ Content Online

หลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่า "เอ็ดดี้" คือมือกลองวง Jetset'er และเป็นหนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งแชนแนลยูทูบ 'เสือร้องไห้' ในวันนี้ได้มีเพจพี่เอ็ด 7 วิเป็นของตัวเองแถมเป็นที่รู้จักของชาวเน็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำคลิปสายฮา แต่งเพลงแร็ปตลก ๆ ให้กลายเป็นจุดขาย มีความแตกต่างจากโฆษณาทั่วไป จนขึ้นแท่นยอดฮิตที่คนชอบดู ลูกค้าชอบใช้

ทุกโพสต์ในเพจเป็นโพสต์โฆษณาสารพัดผลิตภัณฑ์ เหล่าแฟนคลับกว่าหกแสนคนที่กดไลค์และคอยติดตามเพจ พากันกดไลค์ กดแชร์ จนโฆษณาบางตัวมียอดแชร์ถึงหลักหมื่น ยอดรับชมถึงหลักล้าน

'พี่เอ็ด 7 วิ' จะมีวิธีทำ Content Online ยังไงให้คนดูตั้งแต่ต้นยันจบคลิป ?

ซึ่งได้คำตอบจากเจ้าตัวว่า "ศึกษาเนื้อหาที่เราจะทำก่อนว่าจะเล่าอะไรบวกกับไอเดียสนุก ๆ จะมาจากสิ่งที่เราพบเห็น, มาจากเพื่อน, และสิ่งที่เราเห็นจากที่อื่น ๆ นั้นก็คือการคัดลอกนั้นเอง แต่ไม่ใช่การคัดลอกแบบตรง ๆ โดยปรับมุมมองคือการเล่าจากมุมอีกมุมหนึ่งเป็นมุมใหม่ของเรื่องที่สนใจ ยกตัวอย่างเพลงอกหัก เมื่อฟังจบแล้วแน่นอนว่าแต่ละคนมองความอกหักแตกต่างกัน บางคนมองว่ายังไงก็ข้ามผ่านความเจ็บปวดไปได้ บางคนจมอยู่กับความเศร้า บางคนต้องใช้เวลาในการลืม อกหักก้อนเดียว มองได้หลายมุม" ซึ่ง Content ส่วนใหญ่สามารถหาได้ทั่วไปเพียงแค่ค้นหาสิ่งที่เราอยากรู้ใน Google หัวข้อที่เราสนใจเหล่านั้นก็จะขึ้นมาเป็นร้อยเป็นพันให้เราเลือกเสพ แต่จะทำอย่างไรให้ Content ในเรื่องเดิม ๆ ดูแตกต่างและแปลกใหม่จากที่มีมาก่อน

มีวิธีคิดอย่างไรในการสร้างเอกลักษณ์ให้คนจดจำ ?

เพราะถ้าพูดถึงพี่เอ็ด 7 วิคนก็จะรู้ว่าเพจทำคลิปโฆษณาการแร็ปเพื่อขายของ แล้วทำไมถึงเอาจุดนี้มาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง "เกิดจากประสบการณ์ที่สะสมมาในชีวิตจากการทำเพลงอยู่วง Jetset'er บวกกับจบป.โทด้าน Marketing ซึ่งได้เชิงทฤษฎีมาจากตรงนี้ และการทำเสือร้องไห้มา 8 ปี เมื่อทั้ง 3 อย่างรวมกันพี่เลยทำเป็นคลิปขายของที่มีเพลงเป็นตัวประกอบ"

ทำไมต้องใช้การแร๊ปเพื่อขายของ ?

"การแต่งเพลงแร็ปต่อคลิปขึ้นอยู่กับดวง" บางสินค้าเวลาได้รับการบรีฟแล้วก็คิดออกเลยว่าอยากให้ Content ออกมาแบบไหน ส่วนใหญ่ใช้เวลาแค่ 2 วันเสร็จ แต่บางงานแม้แต่ไอเดียแรกคิดยังไงก็คิดไม่ออกทำให้เสียเวลาเป็นเดือน เพราะมันคืองานของ Creative" เมื่อคิดไอเดียไม่ออกสิ่งที่ผลักดันให้ออกมาจากมุมตรงนั้นคือ 'หนี้' และ 'ลูก' เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือแต่ชอบดูวิดีโอมากกว่า เพราะภาพหนึ่งภาพแทนคำไ้ด้เป็นพันคำ หรือเอาหัวข้อที่ต้องทำกระจายออกเป็น Mind Map แล้วนำคำเหล่านี้ค้นหาใน Google ดูว่ามี Content อะไรบ้างที่สนุกแล้วนำมาเป็น Content ของตัวเองได้ อีกอย่างคือเปลี่ยนอิริยาบทไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อให้คิดไอเดียออก บางคนอาจจะคิดออกตอนอาบน้ำ บางคนคิดออกตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่สำหรับพี่เอ็ดคือการขับรถ "ลองสังเกตตัวเองดูว่าอยู่ตรงไหน แล้วมีไอเดียดี ๆ ให้ไปอยู่ตรงนั้น แต่อย่าอยู่ที่เดิมนานเกินไปมันจะตัน" พี่เอ็ดเล่าถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในตอนทำงาน

เนื่องจากพี่เอ็ด 7 วิ ได้อยู่ในวงการนี้มานานเลยอยากรู้ในมุมมองของเขาว่าคนทำ Content กับ Generalist กันไหม ? ซึ่งเขาตอบโดยไม่ต้องคิดว่า "เขาคือคนเดียวกัน เพราะคนที่รออ่าน Content มีมุมมองที่เปลี่ยนไปในการเสพสื่อ เพียงแค่ต้องปรับและอัพเกรดตัวเองให้ทันโลก เพราะการใช้ภาษา หรือวิธีการเดิม ๆ มันอาจจะใช้ไม่ได้ผลในยุคปัจจุบัน"

ก่อนจะจากกัน พี่เอ็ดได้ให้คำแนะนำแก่คนรุ่นใหม่ไฟแรงที่อยากทำ Content เป็นของตัวเอง "อย่างแรกหาคาแรคเตอร์ของตัวเองให้เจอ ซึ่งคาแรคเตอร์ห้ามซ้ำกับใคร เพราะการคัดลอกคาแรคเตอร์คนอื่นมาหนักกว่าการทำ Content ซ้ำอีก ที่สำคัญอดทน ช่วงแรกจะมีเสียงนกเสียงกาเยอะ ขอแค่เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำเป็นอะไรที่ดี ไม่ได้กระทบหรือส่งผลเสียกับสังคมก็พอ ทำไปเรื่อย ๆ แล้ววันหนึ่งจะเก่งขึ้นเอง"

เป็นช่วง 20 นาทีที่สนุกและได้เรียนรู้มุมมองจากผู้ชายที่ไม่ธรรมดาคนนี้แบบกันเองและไม่ธรรมดาสุด ๆ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับวิธีคิด วิธีการปรับเปลี่ยนมุกตลกที่มีอยู่ให้กลายมาเป็นสิ่งที่หลายแบรนด์อยากทำได้ คือการทำให้ผู้คนอยากจะดูโฆษณาแบบเต็มใจนั่นเอง