Final cover blog   hcn %281%29
25 Jan 2025 16:00

รวมปฏิทินเทศกาลตรุษจีน 2568 วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ตรงกับวันไหน ? พร้อมแจกทริคสำคัญ

“ ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ”

ต้อนรับ “วันตรุษจีน 2568” Eventpop รวมปฏิทินเทศกาลวันตรุษจีน
ว่าในปีนี้ ตรงกับวันไหน ? และในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง ?
พร้อมแจกทริค เพื่อให้ไม่พลาดกิจกรรมต่าง ๆ ในวันสำคัญ


วันตรุษจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน และผู้มีเชื้อสายจีนทั่วโลก เป็นวันที่คนในครอบครัว
มารวมตัวกัน เพื่อจับจ่ายซื้อของ การไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบรรพบุรุษ รวมถึงการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน
วันตรุษจีนในปีนี้ ตรงกับวันที่ 27-29 มกราคม 2568 โดยแบ่งออกเป็น วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว



ที่มาภาพ : Springnews.co.th

“วันจ่าย” ตรงกับวันที่ 27 มกราคม เป็นวันเตรียมความพร้อมก่อนวันไหว้ จะมีการซื้อของไหว้
 อาหารต่าง ๆ  เครื่องใช้ 
โดยของที่จะต้องซื้อสำหรับไหว้จะมี “ซาแซ” หรือเนื้อสัตว์ 3 อย่าง
เช่น 
ไก่ต้ม 1 ตัว, เป็ดพะโล้ 1 ตัว, หมูติดหนังต้ม 1 ชิ้น ซึ่งในกรณีนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนของไหว้
ได้ตามความเหมาะสมในแต่ละบ้าน หรืออาจจะเปลี่ยนเป็น ไข่ไก่ต้ม 2-4 ฟอง แทนไก่ต้ม
รวมถึงอาหารทะเล เช่น ปลา, กุ้ง, หมึก ได้เช่นกัน

ต่อมา ผลไม้ตามฤดูกาล อย่าง “ส้ม” เป็นผลไม้ยอดนิยม สำหรับการนำมาใช้เป็นของไหว้
เพราะส้มในภาษาจีน มีความหมายมงคล  รวมถึงอาหารคาว อาหารหวาน และขนมต่าง ๆ
เช่น ขนมเข่ง, ขนมเทียน, ขนมถ้วยฟู เป็นต้น

ที่มาภาพ : thestreetratchada.com

“วันไหว้” ตรงกับวันที่ 28 มกราคม วันไหว้ คือ การไหว้สักการะบูชาเทพเจ้า และบรรพบุรุษ
เพื่อเป็นสิ่งที่เสริมสิริมงคลให้ครอบครัว รวมถึงตัวผู้ไหว้ ซึ่งพิธีการไหว้แบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลา ดังนี้

      1. รูปภาพ หรือรูปปั้นของเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย

2. เชิงเทียน และแจกันดอกไม้ 1 คู่

3. กระถางธูป 1 ใบ

4. ถ้วยน้ำชา 5 ถ้วย

5. สาคูแดงต้มสุก 5 ถ้วย

6. ผลไม้มงคล 5 อย่าง

7. อาหารเจ 5 อย่าง

8. ขนมจันอับ 1 จาน

9. กระดาษเงิน และกระดาษทอง

10. กระเป๋าเงินของผู้ไหว้



ที่มาภาพ : today.line.me

หลักการจัดโต๊ะในวันไหว้ในวันตรุษจีน 2568
* วิธีการจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน แต่ละบ้านอาจจัดวางไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวก *

จุดที่ 1 : รูปเทพเจ้า/แท่นบูชา​

จุดที่ 2 : กระถางธูป (ด้านหน้าแท่นบูชา)​

จุดที่ 3 : เชิงเทียน (ด้านซ้ายและขวาของกระถางธูป)​

จุดที่ 4 : โถกำยาน (ด้านหน้ากระถางธูป)

จุดที่ 5 : แจกันดอกไม้ (ด้านซ้ายและขวาของกระถางธูป)​

จุดที่ 6 : ข้าว 3-5 ถ้วย (ควรตักให้พูนถ้วย เพื่อสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์)​

จุดที่ 7 : ถ้วยน้ำชา/เหล้า​

จุดที่ 8 : ถ้วยน้ำดื่ม​

จุดที่ 9 : ของคาว (หมู ไก่ ปลา หรือ “ซาแซ/โหงวแซ”)​

จุดที่ 10 : ของหวาน/ผลไม้ (จัดจำนวนเท่ากับของคาว)​

จุดที่ 11 : กระดาษเงิน และกระดาษทอง​

จุดที่ 12 : กระเป๋าเงินที่ใช้อยู่ (เฉพาะการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ)

Tips : จำนวนของไหว้ สามารถจัดเตรียมสิ่งของได้ตามความสะดวก เช่น 3 อย่าง, 5 อย่าง
หรือ 9 อย่าง ซึ่งแต่ละจำนวน ก็จะมีความหมายมงคลในวัฒนธรรมจีน​แตกต่างกันไป ดังนี้

- 3 อย่าง : สื่อถึง การเริ่มต้นหรือการกำเนิดใหม่ มักเรียกว่า “ซาแซ”​

- 5 อย่าง : สื่อถึง ความสมดุลของธาตุทั้ง 5 (ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ, และทอง) มักเรียกกันว่า “โหงวแซ”​

- 9 อย่าง : สื่อถึง ความยืนยาวและความมั่นคงตลอดไป โดยเลข 9 ถือว่า เป็นเลขแห่งความโชคดี
และ ความสำเร็จในระยะยาว​



ที่มาภาพ : freepik.com

“วันเที่ยว” ตรงกับวันที่ 29 มกราคม ซึ่งถือว่าวันนี้เป็นวันตรุษจีน วันเที่ยว เป็นวันที่มีการรวมตัวกัน
ของคนในครอบครัว เพื่ออวยพรในวันขึ้นปีใหม่ และในวันนี้ผู้ใหญ่จะมอบ ‘อั่งเปา’ ให้กับเด็ก ๆ
เพื่อเป็นการอวยพร และมีความเชื่อว่าไม่ควรการประพฤติตนที่ผิดไปจากหลักความเชื่อ
เช่น การทำความสะอาดบ้าน, การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต, การยืมเงินผู้อื่น, การพูดปด, การทำสิ่งของแตกหัก
เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ชาวจีนมีความเชื่อว่าจะเป็นสิ่งนำพาความไม่มงคลเข้ามาสู่ครอบครัว/ตนเองได้

โดยจำนวนเงินใน ‘อั่งเปา’ ก็เป็นสิ่งนึงในเทศกาลตรุษจีนที่ควรคำนึงเช่นกัน
หากใส่ไม่ถูกต้องตามหลักความเชื่อ ก็อาจจะเกิดสิ่งไม่มงคลแก่ผู้รับได้ โดยสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

- ควรปฏิบัติ : ใส่เงินให้เป็นจำนวนเลขคู่ โดยเฉพาะเลข 8 ควรเลือกจำนวนเงินที่มีเลข 8
เช่น 88 หรือ 888 เนื่องจากเลข 8 (八, bā) ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ‘ความมั่งคั่ง’  (发, fā)
ซึ่งถือว่าเป็นเลขนำโชค

- ไม่ควรปฏิบัติ : ใส่เงินให้เป็นจำนวนเลขคี่ หรือเลข 4 เนื่องจากเลขคี่ มักเกี่ยวข้องกับงานขาวดำ
ซึ่งถือว่าไม่เป็นมงคล ส่วนเลข 4 เช่น 40 หรือ 400 ก็ไม่ควรใส่ เนื่องจากในภาษาจีน เลข 4 (四, sì)
ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ‘ความตาย’  (死, sǐ) ซึ่งถือว่าไม่เป็นมงคล


สำหรับ การแต่งกายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ควรเลือกแต่งกายด้วยสีสันสดใส และเสื้อผ้าที่มีความมิดชิด
วันนี้ Eventpop เลยนำไอเดียดี ๆ ในการเลือกสีชุด และการแต่งกายให้เหมาะสมกับเทศกาลตรุษจีน ดังนี้

1. แต่งกายด้วยชุดสีแดง เป็นสีที่เชื่อว่าจะสามารถเรียกโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง

2. แต่งกายด้วยชุดสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน เป็นสีที่เชื่อว่าจะช่วยเสริมความมั่งคงในชีวิต

3. แต่งกายด้วยชุดสีทอง เป็นสีที่เชื่อว่าจะส่งเสริมความร่ำรวย มากไปด้วยอำนาจ
    มีสติรู้คิดอยู่เสมอ

4. แต่งกายด้วยชุดสีเขียว เป็นสีที่เชื่อว่าจะประสบพบเจอแต่ความก้าวหน้า เจริญเติบโต
    ไปในทิศทางที่ดี และอุดมสมบูรณ์

5. แต่งกายด้วยชุดสีชมพู เป็นสีที่เชื่อว่าชีวิตจะเปี่ยมไปด้วยความรัก และความอ่อนโยน
     จากผู้คนรอบตัว

6. แต่งกายด้วยชุดสีม่วง เป็นสีที่เชื่อว่าจะสามารถสื่อถึงอำนาจบารมี และยังสื่อถึง
     โชคลาภวาสนา มักจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจ

โดยสีเสื้อผ้าที่ ห้ามใส่เด็ดขาด ในช่วงเทศกาลตรุษจีน คือ สีขาว หมายถึง การไว้ทุกข์
ให้กับผู้ที่ล่วงลับ ซึ่งไม่เหมาะสมจะนำมาใส่ในช่วงต้นปี และสีดำ หมายถึง สีแห่งการไว้อาลัย


ที่มาข้อมูล
https://godofwealth.co/welcome-the-god-of-wealth/
https://www.huasenghong.com/blog/7338/chinese-new-year-2568
https://www.huasenghong.com/blog/7368/how-to-set-up-table-honor-god-chinese-new-year-2568https://www.springnews.co.th/lifestyle/inspiration/855532
https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2837558



ส่วนใครที่ไม่อยากพลาดงานอีเวนต์ หรือ คอนเสิร์ต ก็อย่าลืมกดติดตามเพจ Eventpop
หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไว้บนมือถือได้ทั้งระบบ iOS และ Android

Lifestyle, National Day, Chinese New Year